ฉันจำได้ดี ตอนนั้นฉันอายุแค่ห้าขวบ บรรยากาศในหมู่บ้านเงียบเหงาตลอดปี กลับคึกคักขึ้นมาทันตา งานวัดประจำปีที่วัดท้ายหมู่บ้านจัดขึ้นอีกครั้ง เสียงกลองยาว ดนตรีหมอลำ และเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ดังกลบเสียงจักจั่นยามค่ำคืน แม่พาฉันและน้องไปเที่ยวงานวัดด้วยกัน เราเดินลัดเลาะผ่านแผงขนมสายไหม ตู้ปลาน้ำเขียว กับร้านหนังกลางแปลง จนมาถึงแผง “สอยดาว” ที่ผู้คนมุงแน่นเต็มไปหมด “เอาดาวเบอร์ไหนดีลูก เอาเฮง ๆ นะ” แม่พูดพร้อมหัวเราะ แล้วก็ใช้ไม้ง่ามยื่นไปสอยดาวสีแดงดวงหนึ่ง เบอร์นั้น…ได้ “เสื้อลายดอก” ตัวหนึ่ง เสื้อมันดูเก่า ๆ สีซีด ๆ แปลกตา เหมือนของที่เคยถูกพับเก็บมานาน กลิ่นมันก็เหมือนกลิ่นไม้เก่า ๆ ปน กลิ่นธูปจาง ๆ แต่แม่ก็รับมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพาดมันไว้บนตู้ปลายเตียงตอนกลับถึงบ้านและนั่น…คือจุดเริ่มต้นของสิ่งที่ฉันไม่เคยลืม
แม่เอาเสื้อมาพาดไว้บนตู้เสื้อผ้าไม้เก่า ตู้นั้นตั้งอยู่ปลายเท้าที่ฉันนอน ทุกคืนฉันกับแม่และน้องจะกางมุ้งนอนด้วยกัน บนเตียงไม้แข็งที่มีเพียงฟูกบาง ๆ รองหลัง คืนนั้น น้องกับแม่นอนหลับสนิทไปก่อนแล้ว แต่ฉันกลับนอนไม่หลับ ฉันเบือนหน้ามองออกไปนอกมุ้ง แสงจันทร์ลอดหน้าต่างเข้ามาสลัว ๆ ส่องกระทบกับเสื้อลายดอกตัวนั้น…ตอนแรกฉันเห็นแค่เงา แต่เมื่อเพ่งมองดี ๆ ฉันก็เห็น “มัน” ใบหน้าสีขาวลอยอยู่กลางอากาศ—ขาวซีดเหมือนปูนปาสเตอร์ ไม่มีตา ไม่มีปาก ไม่มีแม้แต่รูจมูก มันลอยนิ่ง ๆ เหมือนกำลังจ้องฉันอยู่ แม้ไม่มีดวงตา…
…ฉันจำได้ว่าแม่นอนข้าง ๆ แต่ก็ไม่ค่อยนิ่งนัก ทั้งคืน แม่ลุกขึ้นมาหยิบรีโมต เปิดทีวี…แล้วปิด
เปิดใหม่…แล้วปิดอีก เหมือนพยายามไล่ความเงียบ ไล่บางสิ่งที่มองไม่เห็นหรือบางที…แม่อาจจะได้ยินอะไรที่ฉันไม่ได้ยิน ฉันไม่กล้าถามแม่ตอนนั้น และแม่ก็ไม่เคยพูดถึงคืนนั้นอีกเลย …ฉันไม่เคยถามแม่ตรง ๆ ว่าคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นแต่เช้าวันต่อมา เสื้อลายดอกตัวนั้น…ก็หายไปจากปลายตู้ และในเช้าวันนั้นฉันก็นอนเป็นไข้จับสั่น
ผ่านไปหลายปี ฉันลองถามแม่ว่า ยังจำเสื้อตัวที่ได้จากงานวัดวันนั้นได้ไหม แม่เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า… “จำไม่ได้แล้วลูก…แต่เสื้อตัวนั้น…แม่ไม่ได้เก็บไว้นะ วันรุ่งขึ้นก็เอาไปเผาทิ้งแล้ว”
แม่จึงเล่าให้ฟังเบา ๆ ด้วยแววตานิ่ง ๆ ว่า
“เสื้อผ้าที่เขาเอาไว้สอยดาว…ไม่ใช่ของใหม่หรอกลูก”
“มันคือของของคนตาย…ที่ญาติใส่ให้ในโลงศพ เพื่อใช้ในปรภพ”
“แต่ก่อนจะเผา เขาก็หยิบออกมา…บอกว่าจะเอามาทำบุญต่อ”
วันนั้น ฉันไม่รู้จะพูดอะไรได้เลย ฉันแค่นึกถึงใบหน้าสีขาวซีด…ที่ลอยอยู่กลางห้องคืนนั้น
นึกถึงความเย็นวาบที่แทรกเข้ามาในร่างเด็กห้าขวบ นึกถึงแม่…ที่เปิดปิดทีวีทั้งคืน แล้วเช้าขึ้น…เสื้อตัวนั้นก็หายไป แม่เผามัน…และไม่เคยพูดถึงมันอีกเลย และเหมือนครั้งนั้นจะเป็นประสบการณ์เจอสิ่งลี้ลับครั้งแรกในชีวิตฉัน และก็ทำให้ฉันได้เจอกับเรื่องแบบนี้เข้ามาอีกเรื่อยๆ